Numquam prohibere somniantes
Charles Masson
Charles Masson

Charles Masson

ชาร์ล แมสสัน (Charles Masson)

ชาร์ล แมสสัน เป็นนามแฝงของ เจมส์ เลวิส (James Lewis) นายทหารอังกฤษที่ทำงานกับบริษัทอีสต์อินเดีย (British East India Company)

แมสสัน เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1800 ในลอนดอนซิตี้ พ่อของเขาชื่อว่าจอร์จ (George Lewis) และแม่ชื่อว่าแมรี่ (Mary Hopcraft) พ่อของเขาเป็นพ่อค้าและเป็นสมาชิกของบริษัท the Needlemakers Company ส่วนแม่มาจากครอบครัวเกษตรกร  แมสสันมีน้อยชายคนหนึ่งชื่อจอร์จ (George) ที่ห่างกับเขาสามปี

แมสสันเรียนหนังสือที่โรงเรียนในวอลแธมสโตว์ (Walthamstow) โดยได้เรียนภาษาลาตินและกรีก แต่ว่าต่อมาเขาได้ลาออกจากโรงเรียนมาทำงานเป็นเสมียนให้กับบริษัทประกันและบริษัทขายผ้าไหม

1821 เมื่ออายุ  21 ปี ได้เข้าเป็นทหารในสังกัดของบริษัทอีสต์อินเดีย (the British East India Company) 

1822 17 มกราคม, ออกเดินทางพร้อมกับเรือของ บ.อีสต์อินเดีย มายังเบงกอล (Bengal)

1826 (Siege of Bharatpur), ร่วมรบในสมรภูมิภารัตเปอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภารัตเปอร์ (Bharatput State) ซึ่งเป็นรัฐเอกราชในเวลานั้น ตั้งอยู่บริเวณรัฐราชาสถาน (Rajasthan) ของอินเดียปัจจจุบัน ผลของสงครามนี้ทำให้อังกฤษได้ภารัตเปอร์เป็นอาณานิคม

1827 เขาออกเดินทางท่องเที่ยงไปยังรัฐปันจาบ (Punjab) ในปากีสถาน ที่อยู่ใต้การควบคุมของอังกฤษ 

และระหว่างที่เข้าไปที่เมืองอาห์มัดเปอร์ (Ahmadpur) เขาได้รับการช่วยเหลือจากโจไซห์ ฮาร์ลัน (Josiah Harlan) ระหว่างที่พยายามจะโค่นรัฐที่ปกครองกรุงคาบูล (Kabul, Afghanistan) 

ต่อมาไม่นาน แมสสัน ก็หนีทัพ และเดินทางอิสระเพื่อตามล่าสมบัติ เขาเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ได้เห็นซากโบราณสถานฮารัปปา (Harrappa)  และยังไปสลักข้อความเอาไว้ที่พระพุทธรูปบามิยัน (Bamiyan buddha) ว่า “If any fool this high somootch explore, Know Charles Massson has been here bofore”

ระหว่างปี 1833-1838 เขาเที่ยวขุดค้นพุทธสถานกว่า 50 แห่งในปากีสถานและอัฟกานิสถาน โดยเขาพบกับสมบัติมากมายที่ถูกฝังเอาไว้ 

1833 แมสสัน ขุดสถูป ในเมืองไบมารัน (Bimaran) ในอัฟกานิสถาน และค้นพบกล่องทองคำ The Bimaran casket ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เอาไว้

กรกฏาคม, แมสสันค้นพบเมืองอเล็กซานเดรียแห่งคอนเคซัส (Alexandria of Causasus) เมืองเก่าที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มหาราช (Alexander the Great) ทรงสร้างเอาไว้เมื่อ 329 BC ซึ่งอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานปัจจุบัน

1841 เดินทางกลับอังกฤษ โดยขึ้นเรือจากบอมเบย์ (Bombay) มายังอียิปต์ และเดินทางผ่านอียิปต์ทางบกก่อนจะขึ้นเรือมาฝรั่งเศส 

1842 มีนาคม, เดินทางกลับถึงอังกฤษ โดยมีวัตถุโบราณกว่า 9,000 ชิ้นที่ถูกนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์อังกฤษ  (the British museum) และมีเหรียญโบราณหลายหมื่นเหรียญกลับมาด้วย 

1844 19 กุมภาพันธ์, แต่งงานกับมารี คิลบี้ (Mary Ann Kilby) ซึ่งพวกเขามีลูกชายและลูกสาวด้วยกันอย่างละคน

1853 5 พฤศจิกายน, เสียชีวิต 

ผลงานเขียน 

  • Memoir on the ancient coins found at Beghram, in the Kohistan of Kabul, 1834
  • Second memoir on the ancient coins found at Beghram, in the Kohistan of Kabul, 1836
  • Note on an inscription at Batman, 1836
  • Third memoir on the ancient coins found at Beghram, in the Kohistan of Kabul, 1836
  • Notes on the antiquities of Bamian, 1836
  • Papers on Afghanistan, containing the narrative of journeys performed in that and the adjacent countries, between 1827 and 1830, 1840
  • Memoir on the topes and sepulchral monuments of Afghanistan, 1841
  • Narrative of various journeys in Balochistan, Afghanistan, and the Panjab, 1842
  • Narrative of a journey to Kalât : including an account of the insurrection at that place in 1840 and a memoir on Eastern Balochistan. 1843
  • Narrative of an excursion from Pesháwer to Sháh-Báz Ghari, 1846
  • Legends of the Afghan Countries, in Verse, 1848
  • Illustration of the route from Seleucia to Apobatana, as given by Isidorus of Charax, 1850

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Don`t copy text!