แอปเปิ้ล (Apple) ในภาษาอังกฤษนั้น มีที่มาจากภาษาอังกฤษโบราณ (old English) ว่า “æppel” ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากภาษาเยอรมันแรกเริ่ม (Proto-Germanic) ว่า “aplaz” และภาษาโปรโต-อินโด-ยูโรเปี้ยน (Proto-Indo-European) ว่า ab(e)l ที่หมายถึง “ผลไม้”
ซึ่งความหมายของ æppel หรือ aplaz แปลว่า “ผลไม้/fruit” เฉยๆ ไม่ได้มีความหมายเจาะจงถึง ผลแอปเปิ้ล ที่เราเข้าใจกันในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยโบราณ คำว่าแอปเปิ้ล จะใช้เรียกผลไม้ต่างประเทศที่นำเข้ามาแล้วชาวยุโรปยังไม่รู้จักและยังไม่มีคำเรียกชื่อผลไม้เหล่านั้น ก็จะเรียก แอปเปิ้ล อาทิ มะเขือ, กล้วย, ถั่ว ก็ล้วนถูกเรียกว่า แอปเปิ้ล เหมือนกันหมดในตอนแรก แต่ว่าภายหลัง แอปเปิ้ลที่พวกเรารู้จักนั้นแพร่หลายมากในยุโรป ทำให้คำจำกัดความของ แอปเปิ้ล แคบลงและเจาะจงที่แอปเปิ้ล ผลไม้ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเท่านั้น
แอปเปิ้ลไม่ใช่ ผลไม้ต้องห้าม (forbidden fruit) ในสวนอีเดน พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม (Old Testament) ในภาษาฮีบรู ใช้คำว่าפְּרִי (peri) = “ผลไม้” ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นแอปเปิ้ล
ส่วนพันธสัญญาใหม่ (new testament) ในภาษากรีกใช้คำว่า καρπός (karpos) แปลว่า “ผลไม้” เช่นกัน
แต่ว่าภายหลัง นักบุญเจอโรม (St.Jerome) ได้แปลพระคัมภีร์มาเป็นภาษาละติน และใช้คำว่า malum ซึ่งมีความหมายทั้ง ผลไม้ และ แอปเปิ้ล .. ซึ่งนำไปสู่การตีความหมาย ผลไม้ต้องห้าม ว่าเป็น ผลแอปเปิ้ล