Numquam prohibere somniantes
Juno and Avos
Juno and Avos

Juno and Avos

จูโนน่า (จูโน่) กับเอวอส (Юнона и Авось)

จูโนน่ากับเอวอส เป็นโอเปร่าแนวร๊อค (rock opera) เรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาของรัสเซีย

จูโนน่ากับเอวอส เป็นโอเปร่าที่ประพันธ์โดย อเล็กซีย์ รุบนิกอฟ (Alexey Rybnikov) โดยเนื้อหามาจากบทกวีของ แอนเดรีย ว๊อซเนเซนสกี้ (Andrei Voznesensky) ซึ่งว๊อชเนเซนสกี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเหตุการณ์จริง

จูโนน่ากับเอวอส เปิดการแสดงครั้งแรกที่โรงละครยุวเลนิน (Moscow Leninist Komsomol Theatre) หรือ โรงละครเลนกอม (Lenkom Theatre) ในมอสโคว์ เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม 1981 

จูโนน่ากับเอวอส เป็นชื่อของเรือใบโดยสารสองลำ เรือจูโนน่ากับเรือเอวอส  นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นประมาณปี 1806 โดยเป็นความรักของชายสูงศักดิ์ นิโคไล เรซานอฟ (Nikolai Petrovich Rezanov) นักเดินเรือที่ออกเดินทางสำรวจแคลิฟอร์เนีย ที่ตกหลุมรักมาเรีย คอนเซปซิออน อาร์กูเอลโล(María Concepción Argüello) หรือ คอนชีต้า (Conchita) สตรีอายุ 15 ปี บุตรสาวของโจเซ่ อาร์กูเอลโล (Jose Dario Argüello) ผู้สำเร็จราชการของสเปนประจำอัลต้า แคลิฟอร์เนีย (Alta California, รัฐแคลิฟอร์เนียในขณะนั้นเป็นอาณานิคมของสเปน)

เมื่อเรซานอฟเดินทางมาถึงแคลิฟอร์เนีย เขาก็ตกหลุมรักกับคอนชีต้าและได้ทำการหมั่นหมายกัน แต่ว่าคอนชีต้านั้นนับถือนิกายแคโธลิก การจะแต่งงานกับคอนชีต้าได้นั้น เรซานอฟต้องได้รับอนุญาตจากพระเจ้าซาร์เสียก่อน เขาจึงได้ล่องเรือกลับไปยังอลาสก้าก่อนมุ่งหน้ากลับไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ว่าเรซานอฟนั้นเสียชีวิตระหว่างทาง ที่เมืองคราสโนยาร์สก์ (Krasnoyarsk) ในปี 1807

ในปีต่อมาคอนชีต้าก็ได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของเรซานอฟ คอนชีต้าจึงได้รับอิสระภาพจากสัญญาหมั่น แต่ว่าเธอไม่ได้แต่งงานใหม่

คอนชีต้าใช้ชีวิตต่อมา โดยอุทิศตนเองให้กับการกุศลและสอนหนังสือให้กับชาวอินเดีย และในปี 1842 คอนชีต้าได้ออกบวช มีชื่อทางศาสนามามาเรีย โดมินก้า (Maria Dominga) และย้ายเข้าไปใช้ชีวืตอยู่ในวิหารมอนเตเรย์ (Monterey monastery)  จนกระทั้งเสียชีวิต 23 ธันวาคม 1857

เนื้อเรื่องเดิมที่แต่งโดยแอนเดรียว๊อซเนเซนสกี้ (Andrei Voznesensky)

นิโคไล เรซานอฟ (Nikolai Rezanov) นักสำรวจชาวรัสเซีย ออกเดินทางจากรัสเซียไปยังแคลิฟอร์เนีย และได้ตกหลุมรักกับคอมชีต้า วัย 15 ปี บุตรสาวของผู้บัญชาการทหารสเปนประจำซานฟานซิสโก (San Francisco)  ซึ่งไม่นานทั้งคู่ก็ได้ทำการหมั่นหมายกัน 

หลังจากการหมั่น เรซานอฟก็ได้ออกเดินทางกลับมารัสเซียเพื่อที่จะขอพระราชทานอนุญาตจากพระเจ้าซาร์และศาสนจักรในการแต่งงานกับหญิงที่นับถือแคโธริก  แต่ว่าเรซานอฟก็ล้มป่วยและเสียชีวิตระหว่างทางที่คราสโนยาร์สก์ 

เมื่อข่าวการเสียชีวิตของเรซานอฟไปถึงคอนชีต้า เธอกลับไม่ยอมเชื่อข่าวดังกล่าว จนกระทั้งปี 1842, 35 ปีหลังจากเรซานอฟเสียชีวิต มีนักเดินทางชาวอังกฤษชื่อ จอร์จ ซิมป์สัน (George Simpson) เดินทางไปยังซานฟรานซิสโก จอร์จเล่าเรื่องการเสียชีวิตของเรซานอฟพร้อมแสดงหลักฐานให้คอนชีต้าดู จนนางยอมเชื่อว่าเรซานอฟเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ 

คอนชีต้าจึงได้ทำการบวชและเข้าไปอาศัยอยู่ในวิหารมอนเตเรย์ จนกระทั้งเสียชีวิตในปี 1857

ต่อมาอีก 150 ปี ในปี 150 ผู้ว่าการเมืองเบนิชี (Benishi) เมืองเล็กๆ ในแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นเมืองที่ร่างของมาเรียถูกฝังเอาไว้ ได้นำเอาดินจากหลุมฝังศพเธอพร้อมกับดอกกุหลายมายังคราสโนยาร์สก์ พร้อมกับไม้กางเขนสีขาวที่ด้านหนึ่งสลักข้อความว่า “I will never forget you/ ฉันจะไม่มีวันลืมคุณ” และอีกด้านสลักคำว่า “I will never see you again/ ฉันคงไม่มีโอกาสได้พบคุณอีก”

พล๊อตในโอเปล่า

นิโคไล เรซานอฟ (Nikolai Rezanov) สูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ และออกเดินทางไปยังอเมริกาเหนือ โดยใช้เรือสองลำคือ จูโน่ (Juno) และ เอวอส (Avos) 

เรซานอฟในวัยเด็กนั้นเขามีความฝังใจเรื่องหนึ่ง ทุกครั้งที่เขามองดูภาพแกะสลักทางศาสนา ภาพ Our Lady of Kazan ซึ่งเป็นภาพของพระนางแมรี่ (Mary) เขารู้สึกว่าตนเองตกหลุมรักพระนางแมรี่ จนกระทั้งวันก่อนที่เขาจะออกเดินทาง เขาก็ฝันว่าได้พบกับพระนางแมรี่โดยที่ในความฝัน พระนางแม่รี่ได้อวยพรให้เขามีความกล้าหาญ 

เมื่อเรือจูโน่และเอวอส เดินทางมาถึงแคลิฟอร์เนียของสเปน ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียขณะนั้นกำลังเตรียมพิธีแต่งงานให้กับลูกสาวของเขา คอนชิต้า (Conchita) กับ เซอร์เฟอร์นันโด (Sir Fernando) 

เรซานอฟเดินทางไปร่วมงานแต่งงานนั้นด้วยในฐานะตัวแทนของซาร์แห่งรัสเซีย

ภายในงานเลี้ยง เรซานอฟ ได้ขอเต้นลำกับคอนชิต้า แต่ว่าเซอร์เฟอร์นันโดเมื่อเห็นทั้งคู่เต้นรำด้วยกันก็เกิดความริษยา ทำให้เรซานอฟและเซอร์เฟอร์นันโดทะเลาะกัน

ในคืนนั้นคอนชิต้าจึงได้หลบเข้าไปในห้อง และสวดมนต์ขอพรจากพระนางแมรี่  ต่อมาเรซานอฟเดินตามคอนชิต้ามาที่ห้อง และทั้งคู่ก็ทำการหมั่นหมายกันอย่างลับๆ ภายในห้องนั้น

เซอร์เฟอร์นันโดได้ตามมาและท้าเรซานอฟออกไปดวลกัน 

ต่อมาเรซานอฟต้องเดินทางกลับรัสเซียเพื่อขออนุญาตจากพระเจ้าซาร์ในการแต่งงาน แต่เขาเสียชีวิตระหว่างทางในคราสโนยาร์สก์ ส่วนคอนชิต้ารอคอยคนรักกลับมาเกือบ 40 ปี และก็เสียชีวิตในวิหาร

จูโน่ กับ เอวอส มีเพลงประกอบที่โด่งดังมากสองเพลง คือ

1. Я тебя никогда не забуду (I will never forget you)

2. Белый шиповник (White Wild Rose)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Don`t copy text!